เว็บไซต์เพื่อคนรักลูก การตั้งครรภ์ แม่ การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก ผู้หญิง ไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว
วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556
5 วิธีลดไข้ เมื่อลูกน้อยไม่สบาย
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนเริ่มเปลี่ยนแปลง กทม. ก็เริ่มหนาวแล้ว บางทีลูกน้อยอาจจะไม่สบายได้ Kiddyloft มีวิธีลดไข้สำหรับเด็กมากฝากค่ะ
5 วิธีการลดไข้สำหรับเด็ก
1. การให้ยาลดไข้ ยาลดไข้ที่ดีที่สุดคือยาพาราเซตามอง เพราะมีฤทธิ์ข้างเคียงน้อย และไม่ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร ส่วนยาจูนิเฟนมีผลดีในการลดไข้และป้องกันการชักจากไข้สูงได้ดีกว่าพาราเซตามอล แต่มีฤทธิ์ข้างเคียง คือ คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง เกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
2. การเช็ดตัวลดไข้ควรเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดา ไม่ควรใช้น้ำเย็นจัด เพราะจะทำให้หลอดเลือดตีบและระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ยาก นอกจากนี้ยังทำให้เกิดอาการหนาวสั่นได้ ควรป้อนยาลดไข้ทันทีเมื่อมีไข้ร่วมกับการเช็ดตัวลดไข้ ยาลดไข้จะออกฤทธิ์ลดไข้หลังรับประทานยา 30 นาทีและออกฤทธิ์สูงสุด 1 ชั่วโมง คงสภาพได้ 4 ชั่วโมง ดังนั้นหากไข้สูงระหว่างมื้อยา ให้เช็ดตัวลดไข้ หากมีอาการหนาวสั่นควรให้ความอบอุ่นก่อนแล้วจึงเช็ดตัว
3. ดื่มน้ำมากๆ ควรเป็นน้ำอุ่นหรือน้ำผลไม้ กระตุ้นให้ดื่มน้ำบ่อยๆเพื่อชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสียไปจากพิษไข้
4. ใส่เสื้อผ้าโปร่ง สวมใส่สบาย ประเภทผ้าฝ้าย ไม่ควรใส่เสื้อผ้ายืดเพราะไม่ระบายความร้อน ไม่ควรใส่เสื้อผ้าหนาหรือห่มผ้าหนาๆ
5. อยู่ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
เวลาเด็กไม่สบาย มักมีอาการตัวร้อนนำมาก่อน สำหรับผู้ใหญ่อาการตัวร้อนดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่เด็กๆอาจไม่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากมีพื้นที่ร่างกายน้อย การระบายความร้อนเป็นไปได้ช้า แต่การสร้างความร้อนเกิดขึ้นเร็ว หากปล่อยให้ตัวร้อนจัดเด็กอาจชักเพราะไข้สูงได้เพราะในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ระบบประสาทส่วนกลางยังเจริญไม่เต็มที่ หากมีการชักบ่อยๆจะทำให้เซลล์สมองถูกทำลาย ซึ่งผลต่อระดับสติปัญญาของเด็กและการทำงานของสมองในอนาคตได้
การดูแลเด็กเวลามีไข้มีมากมายหลายวิธี วิธีเช็ดตัวลดไข้เป็นวิธีที่บิดามารดาสามารถดูแลเบื้องต้นได้ สิ่งที่สำคัญคือบิดามารดาต้องเห็นความสำคัญและใส่ใจ มีเวลาให้กับเด็ก เพื่อให้เกมีความสุขสบายและปลอดภัยจากภาวะไข้ ลองนำไปปฏิบัติกันน่ะค่ะ ด้วยความหวังดีจาก Kiddyloft ค่ะ
ที่มา : http://www.med.cmu.ac.th/
ภาพจาก : http://www.siphhospital.com
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น